ซื้อง่ายขายคล่อง เข้าใจตลาดมากกว่าที่เคย ผ่านแนวคิดที่กลั่นกรองมาอย่างดีของ "ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ” กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บ tarad.com แม่ทัพใหญ่แห่งวงการ e-commerce เมืองไทย รับรองงานนี้มีแต่กำไร

Tellscore: แนะนำตัว

Khun Pom: ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ เป็น CEO ของ tarad.com แล้วก็ตอนนี้มีกลุ่มบริษัทใหม่ชื่อว่าบริษัท efrastructure เป็นบริษัทที่ลงทุนทางด้านพวก infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ทางด้านธุรกิจออนไลน์ มีบริษัทประมาณสิบกว่าบริษัทในกลุ่ม มีทั้งบริษัทที่เพิ่งเปิด และสตาร์ทอัพ โดยจะเน้นเป็นเรื่องการชำระเงิน เรื่องขนส่ง เรื่องการตลาดออนไลน์ เรื่อง Big Data และการทำพวก Fintech ครับ ค่อนข้างเยอะเลย คือตอนหลังจะเน้นมาทางด้านการลงทุนมากกว่า

Tellscore:ทิศทางของ tarad.com หลังจากซื้อกลับมาจากบริษัทแม่อย่าง Rakuten

Khun Pom: tarad.com อายุมัน 18 ปีแล้วครับ หลังจากที่ผมซื้อกลับคืนมาจากทางกลุ่มญี่ปุ่นก็ต้องมาปรับ Business Model เยอะเลยทีเดียว เดี๋ยวคงจะเห็น Business Model ใหม่ๆ เพราะ e-commerce มันเปลี่ยนไปกลายเป็นเกมที่ไม่ใช่เป็นผู้เล่นรายเล็กเล่นแล้ว มันกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่ต้องมีเงินระดับโลกลงมาเล่น ฉะนั้นเราก็จะมีการปรับตัวเหมือนกัน ส่วนที่เป็นบริษัทอื่นๆ ที่ผมลงทุนจะเน้นไปทาง eco system เป็นระบบนิเวศน์ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ธุรกิจจะเข้ามาสู่ออนไลน์ก็ต้องมีอะไรบ้าง ต้องมีเว็บ มีระบบชำระเงิน มีระบบขนส่ง เราพยายามจะลงทุนในทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องด้านดิจิทัล แล้วก็มองไปยังตลาดต่างประเทศครับ

Tellscore: การปรับตัวของธุรกิจ e-commerce

Khun Pom: ตอนนี้ในแง่ของธุรกิจ e-commerce เราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ก็คือตลาดนัดขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เช่น Marketplace ซึ่งตอนนี้บอกได้เลยผู้เล่นส่วนใหญ่จะเป็นต่างประเทศล้วนๆ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มคนที่มีเว็บของตัวเอง มี own channel อันนี้มีอยู่ระดับหนึ่งเลย แต่กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มที่ขายของบนพวกโซเชี่ยลมีเดีย กลุ่ม C2C คือกลุ่มใหญ่มีมูลค่ามหาศาล คนที่ทำ e-commerce ตอนนี้แนะนำว่าควรจะไปทุกช่องทาง มีโซเชี่ยลมีเดียแล้วควรจะมีเว็บของตัวเอง มีเว็บของตัวเองอยู่แล้วก็ควรไปขายใน Marketplace ด้วย สุดท้ายต้องมีการทำ Cross-Border ก็คือการขายข้ามประเทศ เพราะว่าตลาด e-commerce ที่ใหญ่จริงๆ มันอยู่นอกประเทศมากกว่า ในเชิงของโฆษณาออนไลน์มันไปที่ไหนก็ได้ มันเข้าถึงคนทั่วโลก

Tellscore: บทบาทของ Influencer ในแง่การตลาด

Khun Pom: ในแง่ของ Influencer Marketing เป็นกลยุทธ์ในการสื่อสารที่ทำให้เข้าถึงลูกค้าในยุคที่เป็นมีโซเชี่ยลมีเดีย เป็นการสื่อสารอีกวิธีหนึ่งทำให้คนเข้าใจเรามากขึ้น เปิดรับและยอมรับเรามากขึ้น จากเดิมที่เมื่อก่อนเราต้องสื่อสารเองไปตรงๆ พอคนเขารู้ว่าเราเป็นโฆษณาคนจะปิดรับ ค่อนข้างจะมีระยะกับสื่อที่เราทำออกไป แต่หากมี third party (บุคคลที่สาม) มี third opinion (ความเห็นที่สาม) มาพูดแทนเรา แล้วพูดออกไปในมุมของเขา การที่คนจะเชื่อหรือว่า Trust นั้นจะสูงกว่าเยอะ บอกได้เลยว่ามันเหมาะมากกับยุคนี้ที่การสื่อสารมันกระจายออกไปรอบตัว

Tellscore: ทำไมแบรนด์ถึงต้องให้ความสำคัญกับ Micro Influencer

Khun Pom: ผมว่าในแง่มีเดียหรือสื่อ มันเปลี่ยนตัวเองนะ คนธรรมดาเริ่มกลายเป็นมีเดีย สมัยก่อนเราจะพูดถึงดารา เซเลบริตี้ แต่ปัจจุบันคนเหล่านี้เขาเริ่มกลายเป็นมีเดียที่มีราคาแพง คนเริ่มรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นสื่อโฆษณา ในขณะเดียวกันมันเกิดการกระจายตัวของกลุ่มคนที่มีคนติดตามอยู่แต่จำนวนไม่เยอะ ซึ่งเรียกว่า Mircro Influencer แต่เมื่อก่อนมันไม่มีแพลตฟอร์มรวบรวมคนเหล่านี้มาบริหารจัดการ หรือสื่อสารให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำถามคือมันเวิร์คไหม เวิร์คมาก เขามี Target Market (กลุ่มเป้าหมาย) ชัดมาก เป็น Niche Market (ตลาดเฉพาะกลุ่ม) ที่เห็นแล้วบอกได้เลยว่าเขาเป็นใคร ในแง่การตลาดมันเป็นจุดที่เหมาะที่จะเข้าถึงคนเหล่านี้ แต่ต้องกลับมาดูแล้วตั้งคำถามว่าเราจะเข้าไปหาคนเหล่านี้ได้อย่างไร จะวัดผลเมื่อเขาพูดไปแล้วได้อย่างไร มีอะไรที่สามารถดึงผลลัพธ์ออกมาว่าจริงๆ มันอาจเวิร์คกว่าการใช้ดาราแค่ห้าคนผมว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าทำมาก

Tellscore: ถ้าเปรียบ Micro Influencer เป็นร้านค้า e-commerce ต้องทำหน้าร้านของตัวเองอย่างไรให้คนสนใจ

Khun Pom: ถ้ามอง Micro Influencer เป็นเหมือนกับ e-commerce ผมว่าต้องมองที่ differentiation หรือว่า uniqueness ของคุณคืออะไร positioning อยู่ตรงไหน ความแตกต่างระหว่างคุณกับคนอื่นคืออะไร เช่น ผมเก่งเรื่องบิวตี้บล็อกเกอร์ ก็ต้องกลับมาดูว่าจะสร้าง segment อย่างไร อันดับหนึ่ง Niche Market เช่น ผมเป็นบิวตี้ของเกย์ เป็นบิวตี้ของคนมีอายุ เป็นต้น มันก็เริ่มมี Niche Market เป็น segment มากขึ้น และผมว่าตลาดนี้มันยังไปได้ไกล แล้วก็ดูเรื่อง Target Market (กลุ่มเป้าหมาย) ดูเรื่องเทคนิคการสื่อสาร ว่าเราจะมีการสื่อสารอย่างไรให้มันเข้าถึงกลุ่มลูกค้า แล้วก็พยายามสร้าง fan base รักษาเขาไว้ มี communication channel (ช่องทางสื่อสาร) ให้ครบทุกทาง สุดท้ายหากคุณเปลี่ยนคนติดตามให้กลายเป็นสาวกได้ ผมว่าตรงนี้คุณจะสามารถเติบโตไปได้ในระยะยาวเลย

Tellscore: ในฐานะผู้บริหาร Thoth Zocial ผู้ให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ มีคำแนะนำสำหรับ Influencer อย่างไรในการใช้เครื่องมือวัดผล

Khun Pom: สมัยนี้เครื่องมือมีหลายตัวครับ แบ่งเป็นทั้งของเมืองนอกของเมืองไทย เสียเงินและฟรี ถ้าเกิดอย่างของผมเองก็มีบริษัท Thoth Zocial ที่มี ZocialEye ในการมอนิเตอร์ Influencer รายใหญ่ก็แนะนำว่าใช้เครื่องมือแบบเสียเงินไปเลยก็ได้ เพราะเรื่องชั้นเชิงและรายละเอียดมีมากกว่า แต่ถ้าทำเองง่ายๆ ก็มี Google Insight และ Google Trends ที่สามารถเซตคีย์เวิร์ดได้ และสามารถส่ง Alert มาแจ้งเรา แล้วก็มีเครื่องมือหลายๆ ตัวที่สามารถวัด Insight ของลูกค้าในฐานเรานะ ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะมีเครื่องมือต่างกันไป เฟซบุ๊กอีกอย่าง ไลน์ก็อีกอย่าง หาเครื่องมือที่ใช้เป็นประจำแล้ววัดตัวเองว่าเราสื่อสารไปแต่ละครั้งเป็นอย่างไรบ้าง แล้วดูผลลัพธ์ในเชิงธุรกิจ พูดไปแล้วแบรนด์เหล่านั้น มีคนใช้มีคนซื้อจริงหรือเปล่า เพราะถ้าเกิดเราทำไปแล้วเราไม่วัดออกมา ถึงมีคนดูเยอะจริง แต่ไม่มีคนซื้อ ในเชิงการตลาดก็ถือว่าล้มเหลว เครื่องมือต้องตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการทำแคมเปญนั้นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

Tellscore: คำว่า Influencer ในภาษาไทย

Khun Pom: ถ้าเกิดใช้เป็นประจำก็คือ เขาเรียกว่าผู้มีอิทธิพลทางออนไลน์นะครับ อาจจะพูดถึงมาเฟียทางความคิดทางออนไลน์ เป็นพวกคนที่สามารถโน้มน้าวคนอื่นได้

Tellscore: วิธีสร้างจุดยืน และความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่นบน Social Media

Khun Pom: การสื่อสารในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะสื่อที่มีตัวตนของเราอยู่ในนั้นด้วย ต้องเริ่มจากจุดยืนเราเป็นอย่างไร มีแนวความคิดอย่างไร แล้วสื่อสารไปทางนั้น ของผมเองก็จะเป็นแนวตรงไปตรงมา ไม่ใช่เรียบร้อยเป็นประจำ แล้วต้องสอดแทรกคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ ไม่อวยจนเกินไป บางครั้งคุณไปยอมทำตามคนอื่นมากเกินไป ตามแบรนด์มากเกินไป มันทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวเอง ต่อไปคุณจะไม่มีจุดยืนของตัวเอง แล้วคุณจะเป๋ไปเป๋มา หาตัวเองให้เจอแล้วขยี้ตัวตนให้มันชัด สำคัญมากคือแตกต่าง แล้วต้องพยายาม Keep Constant (รักษาความต่อเนื่อง) ทำเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ให้ทุกๆ คนรู้ว่าเราเป็นตรงนี้จริงๆ ผมเชื่อว่าในแง่ของเรื่องการสื่อสาร และทุกอย่างมันจะกลับเข้ามาหาเราเอง

Tellscore: ไอดอลของคุณคือใคร

Khun Pom: คนที่ผมมองเป็นไอดอลมีหลายคน คนแรก คือ CEO ของกลุ่ม Rakuten ที่ทำงานด้วย เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลครับ นอกจากนี้คนที่มีอิทธิพลกับผมส่วนใหญ่จะมาจากหนัง และซีรี่ย์ เมื่อก่อนดูซีรี่ย์เรื่อง 24 ผมชอบตัวละครหนึ่งเขาชื่อว่า เดวิด ปาล์มเมอร์ เป็นบทประธานาธิบดี ส่วนตอนนี้กำลังดูซีรี่ย์ที่ชื่อว่า House of Cards ชอบแฟรงค์ อันเดอร์วูด เป็นนักการเมืองเหลี่ยมจัดเก๋าเกมส์ คือมีบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อตัวเรา เวลาที่เราคิดอะไรสักอย่างก็จะตั้งต้นว่าถ้าคนนี้คิดต้องคิดแบบนี้แน่เลย มันจะขัดเกลาความคิดเราให้คมขึ้น

นับเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาเรียนรู้เรื่องราวของธุรกิจสตาร์ทอัพ และมุมมองที่น่าสนใจในการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน และสำหรับนักการตลาดที่อยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย Influencer สามารถเข้ามาค้นหา Influencer คุณภาพได้ที่

www.tellscore.com

คุณป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

CEO ของ tarad.com